Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/1059
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | มูลวงค์, วิภู | - |
dc.contributor.author | MOOLWONG, WIPOO | - |
dc.date.accessioned | 2017-08-31T06:19:32Z | - |
dc.date.available | 2017-08-31T06:19:32Z | - |
dc.date.issued | 2559-09-08 | - |
dc.identifier.uri | http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/1059 | - |
dc.description | 55253201 ; สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ -- วิภู มูลวงค์ | en_US |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา 2) เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ กรณีศึกษา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Pre - Experimental Research) แบบแผนการทดลองแบบ One - Group Pretest – Posttest Design กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 40 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.00 2) แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ มีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80 -1.00 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.00 และ 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.00 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1. ผลการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งผลการเรียนรู้เรื่องสัดส่วนมีคะแนนสูงสุด และผลการเรียนรู้เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วนและร้อยละมีคะแนนต่ำสุด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี ซึ่งนักเรียนมีความสามารถด้านการกำหนดปัญหาจากโจทย์สูงที่สุด และมีความสามารถด้านการแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาต่ำที่สุด 3. ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก และนักเรียนมีความคิดเห็นว่าได้ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม และควรนำการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษาไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ในเนื้อหาอื่นต่อไป The purposes of this research were 1) to compare eighth grade students’ learning outcomes on mathematics before and after the instruction with case – based learning 2) to study eighth grade students’ problem solving abilities during the instruction with case – based learning and 3) to study eighth grade students’ opinion towards the instruction with case – based learning. This research were pre – experimental research with One - Group Pretest – Posttest Design. The sample were 40 students by simple random sampling, in eighth grade who are studying in the second semester 2015 academic year, The Demonstration School of Silpakorn University in Nakhon Pathom province. The research instruments used for gathering data were 1) lesson plans were according to index of item objective congruence 1.00 2) learning outcomes on mathematics test were according to index of item objective congruence between 0.80 - 1.00 3) problem solving abilities on mathematics test were according to index of item objective congruence 1.00 and 4) questionnaire on opinion the instruction with case – based learning were according to index of item objective congruence 1.00. The statistical analysis employed were mean, standard deviation, t– test dependent and content analysis. The results were as follow: 1. The learning outcomes of eighth grade students’ on mathematics after being taught by case – based learning were higher than before the instruction were statistically significant at the .05 level. Which the learning outcomes about proportion had the highest score and the lowest score was solving word problem. 2. The eighth grade students’ problem solving abilities on mathematics during the instruction with case – based learning were good. Which the students could define the questions the highest and could write the step of solving problems the lowest . 3. The opinion of eighth grade students’ towards the instruction with case – based learning were at a high agreement level and students express their opinion that they have a chance to work in group and we should use case – based learning approach with the other subjects. | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยศิลปากร | en_US |
dc.subject | การจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา | en_US |
dc.subject | ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ | en_US |
dc.subject | CASE - BASED LEARNING | en_US |
dc.subject | PROBLEM SOLVING ABILITIES ON MATHEMATICS | en_US |
dc.title | การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษา | en_US |
dc.title.alternative | THE DEVELOPMENT OF MATHEMATICS PROBLEM SOLVING ABILITY OF EIGHTH GRADE STUDENTS TAUGHT BY CASE – BASED LEARNING | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | Education |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
55253201 วิภู มูลวงค์.pdf | 7.14 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.