Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/136
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | เกยุราพันธ์, ลักษณา | - |
dc.contributor.author | KEYURAPHAN, LUXANA | - |
dc.date.accessioned | 2017-08-25T09:24:54Z | - |
dc.date.available | 2017-08-25T09:24:54Z | - |
dc.date.issued | 2559-08-03 | - |
dc.identifier.uri | http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/136 | - |
dc.description | 56260910 ; สาขาวิชาพัฒนศึกษา -- ลักษณา เกยุราพันธ์ | en_US |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการณ์และประวัติความเป็นมาในการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จังหวัดนครนายก 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนชาวไทยพวนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จังหวัดนครนายก 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนชาวไทยพวนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จังหวัดนครนายก 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนชาวไทยพวนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์จังหวัดนครนายก พื้นที่ศึกษาคือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนชาวไทยพวนทั้ง 8 ชุมชนของอำเภอปลากพลี จังหวัดนครนายก ผู้ให้ข้อมูลหลักในการศึกษาคือ 1) ประชาชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ หัวหน้าส่วนราชการในเขตพื้นที่ศึกษา นักวิชาการในพื้นที่ ผู้นำชุมชน ผู้นำ ศาสนา ปราชญ์ชาวบ้านหรือผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดนครนายก เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนในชุมชนรวมทั้งสิ้น 20 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก เสวนากลุ่ม และจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2) ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อทดลองใช้รูปแบบใน 2 ชุมชน คือชุมชนเกาะหวายและชุมชนหนองแสง จำนวน 43 คน โดยเก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2559 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการณ์ของการจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนไทยพวน จังหวัดนครนายก มีแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดี เพราะมีสภาพแวดล้อมและทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีความพร้อม มีการส่งเสริมการเรียนรู้ มีผู้นำชุมชนรับผิดชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชน 2) รูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนชาวไทยพวนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ที่พัฒนาเรียกว่า “ThCLCAPC Model” ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ โดยที่ Th คือ Thai Phuan (ชาวไทยพวน) C หมายถึง Creation (การสร้างสรรค์) L คือ Learning (การเรียนรู้) C คือ Conservation (การอนุรักษ์) A คือ Awareness (ความตระหนัก) P คือ Participation of Community (การมีส่วนร่วมของชุมชน) และ C คือ Cultural Tourism Activity (กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม) 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนไทยพวนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จังหวัดนครนายกพบว่า รูปแบบที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมในชุมชนไทยพวน 4) ผลการประเมินรูปแบบการจัด การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนไทยพวน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จังหวัดนครนายกพบว่า มีความเหมาะสมในทุกองค์ประกอบ สำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนไทยพวนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จังหวัดนครนายกที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาและส่งเสริมบุคลากร ทุกระดับด้วยการอบรมให้มีความรู้ สร้างความตระหนัก ให้รู้คุณค่า การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวและการเรียนรู้ที่หลากหลาย การประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องมีการจัดตั้งกลุ่มผู้รับผิดชอบ การจัดทำป้ายแหล่งท่องเที่ยวและสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐเพื่อส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ เชิงสร้างสรรค์ จังหวัดนครนายกให้มีประสิทธิภาพและสามารถขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้อย่างยั่งยืน This research aimed to 1) study the state and background of the cultural tourism management in Nakhon Nayok province, 2) develop an appropriate model of the Thai Phuan community’s tourism activity management to promote creative learning in Nakhon Nayok, 3) try out the developed model of the Thai Phuan community’s cultural tourism management to promote creative learning in Nakhon Nayok, and 4) evaluate and improve the model of the Thai Phuan community’s cultural tourism activity management to promote creative learning in Nakhon Nayok, The research method was Research and Development (R&D), and the study area were eight cultural tourism attractions in Nakhon Nayok such as the temples and communities in Nong Saeng and Koh Wai sub-districts. The subjects were 1) 20 residents and related people, namely, a head of the government agency in the area, local academics, leaders of the communities, religions, local scholars or experts in local culture, tourism authority and sport in Nakhon Nayok province, public and private officials, as well as the residents of the eight communities, 2) 43 residents and tourists who joined tourist learning activities. The data were collected through 1) in-depth interviews, 2) group discussion, 3) stages for learning exchange; the data collection were conducted in two sub- districts, Koh Wai and Nong Saeng. The research instruments were guidelines for in-depth interviews and fogus group discussion, and a form for observation recording. The data were collected in April – May 2016; and they were analyzed for frequency, percent, mean, standard deviation and content analysis. The findings revealed that 1) the cultural tourism management of Thai Phuan communities in Nakhon Nayok province had readiness for being cultural tourism attractions and learning promotion. 2) The developed cultural tourism model to promote learning “ThCLCAPC Model” was composed of 7 factors: Th = Thai Phuan, C = creation, L = learning, C = conservation, A = awareness, P = participation of community, and C = cultural tourism activity. 3) The implementation stage showed that the model was appropriate for Thai Phuan communities 4) The model evaluation was found to be appropriate for Thai Phuan communities in all factors. The suggestions for the development were including contribution of knowledge and awareness, value and realization of the importance of cultural tourism to promote creative learning, building the communities’ participation, management of various tourism activities and learning, development of tourism personnel and continual public relations, establishing responsible groups, making tourist attractions signs, and financial support from the government to fulfill the cultural tourism management of Thai Phuan communities to effectively promote creative learning in Nakhon Nayok, and the cultural tourism could be driven sustainably. | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยศิลปากร | en_US |
dc.subject | การจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม | en_US |
dc.subject | การเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ | en_US |
dc.subject | ชุมชนชาวไทยพวน | en_US |
dc.subject | CULTURAL TOURISM ACTIVITY MANAGEMENT | en_US |
dc.subject | CREATIVE LEARNING | en_US |
dc.subject | THAI PHUAN COMMUNITY | en_US |
dc.title | การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนชาวไทยพวน เพื่อการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จังหวัดนครนายก | en_US |
dc.title.alternative | A DEVELOPMENT MODEL OF THAI PHUAN COMMUNITY’S TOURISM ACTIVITY MANAGEMENT TO PROMOTE CREATIVE LEARNING IN NAKHON NAYOK | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | Education |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
16.56260910 ลักษณา เกยุราพันธ์.pdf | 35.15 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.