THE CAUSAL RELATIONSHIP AND EFFECT OF MIGRANTS WORKER MANAGMENT CAPABILITY : AN EMPIRICAL EVIDENCE OF SMALL AND MEDIUM ENTERPRISES IN SAMUTSAKORN PROVINCES

Abstract

This research aims to 1) investigate migrant worker management capability which affects human resource management excellence and production efficiency 2) investigate human resource management system excellence and production efficiency which affect effective customer responses. 3) investigate effective customer responses which affects organization performance 4) investigate worker awareness and diversity management capability which affect migrant worker management capability. This study is mixed methods applying both quantitative and qualitative research. The sample of quantitative research consists of 351 manufacturing sectors of small and medium enterprises in Samutsakorn province. A research instrument is a questionnaire and the statistics to test an assumption are confirmatory factor analysis second order. The qualitative research uses a phenomenology study utilizing an in-depth interview method. The key informant includes 5 chief executives and human resource managers from the manufacturing sectors of small and medium enterprises in Samutsakorn province that received the certificate of Good Labour Practices (GLP) in 2017 from Department of Labour Protection and Welfare.

The results of hypothesis testing show that 1) migrant worker management capability has a direct effect on human resource management excellency and production efficiency 2) human resource management excellence and production efficiency have a direct effect on effective customer response 3) effective customer response has a direct effect on organizational performance 4) worker awareness and diversity management capability have a direct effect on migrant worker capability.

The research results reveal that the model base on assumption is in harmony with the empirical data by chi-square equaled to 146.284, p-value of chi-square equals to 0.239, the ratio of chi-square to the degrees of freedom equaled to 1.083, CFI equaled to 0.998, GFI equaled to 0.962, AGFI equaled to 0.956 and RMSEA equaled to 0.015. The value of this research is to explain the casual relationship and effect of migrant worker capability as well as suggest useful information regarding migrant worker management for the manufacturing sectors of small and medium enterprises.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ทดสอบสาเหตุและผลลัพธ์ของความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 1) เพื่อทดสอบอิทธิพลความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติมีอิทธิพลต่อความเป็นเลิศในระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์และประสิทธิภาพในการผลิต 2) เพื่อทดสอบอิทธิพลความเป็นเลิศในระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์และประสิทธิภาพในการผลิตมีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการตอบรับจากลูกค้า 3 ) เพื่อทดสอบอิทธิพลประสิทธิผลการตอบรับจากลูกค้ามีอิทธิพลต่อผลดำเนินงานขององค์การ 4) เพื่อทดสอบอิทธิพลความตระหนักในคุณค่าแรงงานและความสามารถในการจัดการความหลากหลายมีอิทธิพลต่อความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติ 5) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนา รวมทั้งการสร้างข้อเสนอเชิงนโยบายและข้อเสนอเชิงการจัดการของความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติ การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการเชิงคุณภาพ โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณเพื่อทดสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ด้วยแบบสอบถามกับผู้บริหารกิจการหรือผู้จัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประเภทภาคผลิตในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 351 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน 2 อันดับ และวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิธีปรากฎการณ์วิทยาจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้บริหารกิจการที่อยู่ในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประเภทภาคผลิตจำนวน 5 คน

ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติมีอิทธิพลเชิงบวกต่อความเป็นเลิศในระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์และประสิทธิภาพในการผลิต 2) ความเป็นเลิศในระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์และประสิทธิภาพในการผลิตมีอิทธิพลเชิงบวกต่อประสิทธิผลการตอบรับจากลูกค้า 3 ) ประสิทธิผลการตอบรับจากลูกค้ามีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลดำเนินงานขององค์การ 4) ความตระหนักในคุณค่าแรงงานและความสามารถในการจัดการความหลากหลายมีอิทธิพลเชิงบวกต่อความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน พบว่า โมเดลตามสมมติฐานมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์นั้นผ่านเกณฑ์ โดยค่าไค-สแควร์ เท่ากับ 146.284 ที่ระดับความมีนัยสำคัญเท่ากับ 0.239 ค่าไค-สแควร์สัมพัทธ์เท่ากับ 1.083 ค่า CFI เท่ากับ 0.998 ค่า GFI เท่ากับ 0.962 ค่า AGFI เท่ากับ 0.956 ค่า RMSEA เท่ากับ 0.015 ประโยชน์จากการวิจัยนี้สามารถอธิบายความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ของความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติและสามารถใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการสำหรับแรงงานข้ามชาติในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคผลิต อีกทั้งสามารถนำไปพัฒนาเป็นต้นแบบสำหรับอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ที่มีการใช้แรงงานข้ามชาติ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและผลกระทบเชิงบวกในการยกระดับความสามารถในการจัดการแรงงานข้ามชาติ ซึ่งสามารถนำหลักฐานเชิงประจักษ์จากการวิจัยในครั้งนี้เพื่อยกตัวอย่างให้ชัดเจนขึ้น