Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2017
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor | Kanlaya SWANGKONG | en |
dc.contributor | กัลยา สว่างคง | th |
dc.contributor.advisor | VIROJ JADESADALUG | en |
dc.contributor.advisor | วิโรจน์ เจษฎาลักษณ์ | th |
dc.contributor.other | Silpakorn University. Management Sciences | en |
dc.date.accessioned | 2019-08-07T03:25:09Z | - |
dc.date.available | 2019-08-07T03:25:09Z | - |
dc.date.issued | 12/7/2019 | |
dc.identifier.uri | http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2017 | - |
dc.description | Doctor of Philosophy (Ph.D.) | en |
dc.description | ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.) | th |
dc.description.abstract | This research aimed 1) to testify the effect of resources allocation efficiency, creative transformational leadership and competitive intensity analysis to alliance strategic competency of tour businesses in Thailand, 2) to testify the effect of alliance strategic competency to service excellence and organization performance of tour businesses in Thailand, 3) to testify the effect of alliance strategic competency to operational efficiency and organization performance of tour businesses in Thailand, 4) to testify the effect of service excellence to organization performance of tour businesses in Thailand, 5) to testify the effect of operational efficiency to organization performance of tour businesses in Thailand, and 6) to propose a guideline of alliance strategy application in tour businesses in Thailand for higher potential. The mixed research methodology is used in the study. The quantitative method is used to testify the causal relationship and effect of alliance strategic competency of tour businesses in Thailand. The quantitative data were collected from 271 tour companies through questionnaire. The qualitative data were collected by in-depth interviews with 15 key-informants consisting of tour business owners, executives, committee and president of associations related to tour business. The statistic used in the assumption test is confirmatory factor analysis. The results of study showed that: 1) The resources allocation efficiency, creative transformational leadership and competitive intensity analysis had significant direct effect on alliance strategic competency. 2) Alliance strategic competency had a significantly direct effect on service excellence operational efficiency and organization performance. 3) The service excellence and operational efficiency had a significantly direct effect on organization performance. 4) Alliance strategic competency had a significantly indirect effect on organization performance, with service excellence and operational efficiency as mediator. The results of the model analysis showed that the model based on assumption was in harmony with the empirical data by Chi-square = 17.18, p-value = 0.2, Chi-square / df = 1.43, CFI = 0.99, GFI = 0.99 AGFI = 0.99 and RMSEA = 0.04. The benefit from this research can explain the causal relationship and effect of alliance strategic competency of tour businesses in Thailand that have the network theory, resource dependence theory, contingency theory as the basic theory in research. In addition, the research results can be used as a guideline of alliance strategy application in tour businesses in Thailand for higher potential and good performance of the organization. | en |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1.เพื่อทดสอบผลกระทบของประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากร ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ และความสามารถในการวิเคราะห์ความรุนแรงทางการแข่งขันที่มีต่อศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตรของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย 2. เพื่อทดสอบผลกระทบของศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตรที่มีต่อความเป็นเลิศในการบริการ และผลการดำเนินงานของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย 3. เพื่อทดสอบผลกระทบของศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตรที่มีต่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานและผลการดำเนินงานของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย 4. เพื่อทดสอบผลกระทบของความเป็นเลิศในการบริการที่มีต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย 5. เพื่อทดสอบผลกระทบของประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่มีต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย 6. เพื่อเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้กลยุทธ์พันธมิตรของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทยให้มีศักยภาพมากขึ้น การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณเพื่อทดสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ของศักยภาพ กลยุทธ์พันธมิตรของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามกับผู้บริหารธุรกิจนำเที่ยวจำนวน 271 แห่ง และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิธีปรากฎการณ์วิทยาจากการสัมภาษณ์เชิงลึกเจ้าของและผู้บริหารธุรกิจนำเที่ยว รวมทั้งกรรมการและนายกสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนำเที่ยวจำนวน 15 คน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากร ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ และ ความสามารถในการวิเคราะห์ความรุนแรงทางการแข่งขัน มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตร 2) ศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตรมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความเป็นเลิศในการบริการ ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และผลการดำเนินงานขององค์กร 3) ความเป็นเลิศในการบริการ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานขององค์กร 4) ศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตรมีอิทธิพลทางอ้อมเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานขององค์กรโดยมีความเป็นเลิศในการบริการ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานเป็นตัวแปรส่งผ่าน การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน พบว่าโมเดลตามสมมติฐานมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูล เชิงประจักษ์นั้นผ่านเกณฑ์ โดยค่า Chi-square เท่ากับ 17.18 p-value เท่ากับ 0.24 ค่า Chi-square / df เท่ากับ 1.43 ค่า CFI เท่ากับ 0.99 ค่า GFI เท่ากับ 0.99 ค่า AGFI เท่ากับ 0.99 และค่า RMSEA เท่ากับ 0.04 ประโยชน์จากการวิจัยนี้ สามารถอธิบายความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ของศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตรของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทยที่มีทฤษฎีพื้นฐานในการวิจัย คือ ทฤษฎีเครือข่าย ทฤษฎีการพึ่งพาทรัพยากร และทฤษฎีการบริหารเชิงสถานการณ์ โดยสามารถนำผลการศึกษาไปใช้ในการเสนอแนวทางประยุกต์ใช้กลยุทธ์พันธมิตรของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทยให้มีศักยภาพมากขึ้นเพื่อนำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีต่อองค์กรต่อไป | th |
dc.language.iso | th | |
dc.publisher | Silpakorn University | |
dc.rights | Silpakorn University | |
dc.subject | ศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตร | th |
dc.subject | ประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากร | th |
dc.subject | ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ | th |
dc.subject | ความสามารถในการวิเคราะห์ความรุนแรงทางการแข่งขัน | th |
dc.subject | ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน | th |
dc.subject | ความเป็นเลิศในการบริการ | th |
dc.subject | ผลการดำเนินงานขององค์กร | th |
dc.subject | ธุรกิจนำเที่ยว | th |
dc.subject | Alliance Strategic Competency | en |
dc.subject | Resource Allocation Efficiency | en |
dc.subject | Creative Transformational Leadership | en |
dc.subject | Competitive Intensity Analysis | en |
dc.subject | Operational Efficiency | en |
dc.subject | Service Excellence | en |
dc.subject | Organization Performance | en |
dc.subject | Tour Business | en |
dc.subject.classification | Business | en |
dc.title | ALLIANCE STRATEGIC COMPETENCY OF TOUR BUSINESSES IN THAILAND | en |
dc.title | ศักยภาพกลยุทธ์พันธมิตรของธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย | th |
dc.type | Thesis | en |
dc.type | วิทยานิพนธ์ | th |
Appears in Collections: | Management Sciences |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
58604911.pdf | 16.7 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.