The Influencing factors of advocate for trade – Exhibitor’s attention in Bangkok and its vicinity

Abstract

This research aims to study 1) To compare general information of advocate for trade – Exhibitor’s attention. 2) To test the marketing mix factors that influence advocate for trade – Exhibitor’s attention. 3) Suggestions about guidelines Efficiency increasement for trade – Exhibitor’s attention. This study is a quantitative research. The sample were collected 400 exhibitors in Bangkok and its vicinity. Using random sampling techniques without regard to probability from exhibitors by means of convenience by using questionnaire. Using descriptive statistics for data analysis to fine frequency, percentage, mean, standard deviation, inferential Statistic, F-test (One way ANOVA) also the results of the comparison differences by using statistics Independent T-test and multiple regression analysis for hypothesis analysis. The research found that,

To compare general information of advocate for trade – Exhibitor’s attention found that Location (Sig= 0.03) ,type of business (Sig= 0.013), frequency (Sig= 0.00) and all expenses for exhibitors (Sig= 0.001) were different which was statistically significant at 0.05 level Show that Location, type of business, frequency and all expenses for exhibitors were different and did affect of advocate for trade – Exhibitor’s attention but the result of type of market (Sig= 0.290) and number of employees (Sig= 0.064) did not affect of advocate for trade – Exhibitor’s attention.

To test the marketing mix factors that influence advocate for trade – Exhibitor’s attention discovered the Percentage 52.2 by finding Product (Sig. 0.000) Place (Sig. 0.022) People (Sig. 0.014) Process (Sig. 0.000) Physical Evidence (Sig. 0.000) influence advocate for trade – Exhibitor’s attention was statistically significant at 0.05 level but Price (Sig. 0.085) and Promotion (Sig. 0.813) did not influence advocate for trade – Exhibitor’s attention.

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลทั่วไปของผู้เข้าร่วมออกร้านค้ากับการสนับสนุนเข้าร่วมออกร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้า 2) เพื่อทดสอบปัจจัยด้านส่วนประสมการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการสนับสนุนเข้าร่วมออกร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้า 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้เข้าร่วมออกร้านค้า โดยการศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงปริมาน ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และทำการเก็บกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ออกร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้าในเขตกรุงเทพมหานครฯและปริมณฑล จำนวน 400 ร้านค้า โดยการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา เพื่อหาค่าความถี่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้สถิติอนุมาน ในการวิเคราะห์สมมติฐาน วิเคราะห์ค่า F-test (Independent Sample F-test) แบบการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว OneWay ANOVA เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างที่มากกว่า 2 กลุ่ม และผลการเปรียบเทียบค่าความแตกต่างรายคู่ โดยการใช้สถิติ Independent T-test และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) โดยผลการวิจัยพบว่า

ข้อมูลทั่วไป ด้านสถานที่ (Sig. 0.03) ประเภทธุรกิจ (Sig. 0.013) ความถี่ (Sig. 0.00) และค่าใช้จ่ายทั้งหมด (Sig. 0.001) แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงยอมรับสมมติฐาน พบว่า สถานที่ ประเภทธุรกิจ ความถี่และค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเข้าร่วมออกร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้า ส่งผลต่อการสนับสนุนการเข้าร่วมออกร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้า ในขณะที่ ประเภทร้านค้า (Sig. 0.290) และจำนวนพนักงาน (Sig. 0.064) ไม่ส่งผลต่อการสนับสนุนในการออกงานจัดแสดงสินค้า

ปัจจัยด้านส่วนประสมการตลาด 7Ps มีอิทธิพลต่อการสนับสนุนในการเข้าร่วมออกร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้าแตกต่างกัน คิดเป็นร้อยละ 55.2 โดยพบว่า ด้านผลิตภัณฑ์ (Sig. 0.000) ด้านทำเลในการจัดงาน (Sig. 0.022) ด้านบุคคล (Sig. 0.014) ด้านการบริหารจัดการในงานจัดแสดงสินค้า (Sig. 0.000) ด้านกายภาพ (Sig. 0.000) มีอิทธิพลทางบวกต่อปัจจัยการสนับสนุนในการเข้าร่วมออกร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้า ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ในขณะที่ ด้านราคา (Sig. 0.085) และด้านการส่งเสริมการตลาดของร้านค้าในงานจัดแสดงสินค้า (Sig. 0.813) ไม่มีอิทธิพลต่อปัจจัยด้านสนับสนุนในการออกงานจัดแสดงสินค้า