Please use this identifier to cite or link to this item: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2536
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributorAnwar LANUIen
dc.contributorอันวาร์ ล่านุ้ยth
dc.contributor.advisorAdisorn Srisaowanunten
dc.contributor.advisorอดิศร ศรีเสาวนันท์th
dc.contributor.otherSilpakorn University. Architectureen
dc.date.accessioned2020-08-04T03:38:46Z-
dc.date.available2020-08-04T03:38:46Z-
dc.date.issued12/6/2020
dc.identifier.urihttp://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2536-
dc.descriptionMaster of Architecture (M.Arch)en
dc.descriptionสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (สถ.ม.)th
dc.description.abstractThroughout the ages of history, the process of forming or architectural formations arises from two different needs: It Is the pole of truth (Intrinsic) and the pole of meaning (Rhetoric). The Intrinsic architecture will express the function. Expression with shapes that respond the user needs, while the rhetoric architectural speak of significance, creating a language and displaying content through the symbol system. Although there are obvious differences but there is a relationship that cannot be separated. If choosing to express only one side of the idea, architecture will present that it is an object to respond the user needs, but there is no communication dimension that shows relationships with other things or maybe the creation Buildings to communicate, but lacking in function to support human use. Can be said that the poles of both ideas are the cornerstone of the architecture. And it is the foundation of ideas that pushed architecture from ancient Greek to the present day. Consequently, the architecture that started from a strong foundation will be able to stand firmly, is an expression of the essence of architecture and maintain value when the time passed. The objective of this thesis is return to study the basics of the occurrence of architecture which affects architectural formations both in term of role and the significance. Because at present the other thought conceptual that are not the essence of the architecture began to play more roles. On the other hand, the basic concept was ignored significantly. Which causes the architecture to move in the wrong direction .Even so, it doesn’t mean that architecture will completely reject the other thought. Accordingly, good creation must come from a solid foundation to support other elements to be fully creative.  en
dc.description.abstractตลอดยุคสมัยของประวัติศาสตร์ กระบวนการเกิดหรือการก่อรูปทางสถาปัตยกรรมเกิดขึ้นจากขั้วของความต้องการที่แตกต่างกันสองขั้วหลัก ๆ คือ ขั้วของความจริง (Intrinsic) และขั้วของวาทกรรม (Rhetoric) โดยในขั้วของความจริงสถาปัตยกรรมจะแสดงออกถึงหน้าที่การใช้สอย การแสดงออกด้วยรูปทรงที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ในขณะที่ขั้วของวาทกรรมสถาปัตยกรรมจะพูดถึงการสื่อความหมาย การสร้างภาษา และการแสดงออกถึงเนื้อหาผ่านระบบสัญลักษณ์ แม้จะมีความแตกต่างกันที่ชัดเจนแต่ก็มีความสัมพันธ์กันที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ หากเลือกที่จะแสดงออกขั้วความคิดใดเพียงด้านเดียวสถาปัตยกรรมจะแสดงออกถึงการเป็นวัตถุเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้สอยแต่จะขาดมิติด้านการสื่อสารที่แสดงถึงความสัมพันธ์กับสิ่งอื่น ๆ หรืออาจจะเป็นการสร้างอาคารเพื่อสื่อความหมายแต่บกพร่องในการทำหน้าที่เพื่อรองรับการใช้งานของมนุษย์  จึงกล่าวได้ว่า ขั้วของความคิดทั้งสองเป็นรากฐานที่สำคัญของการเกิดงานสถาปัตยกรรม และเป็นการสร้างพื้นฐานทางความคิดที่ผลักดันงานสถาปัตยกรรมจากยุคกรีกโบราณมาจนถึงยุคปัจจุบัน ดังนั้นสถาปัตยกรรมที่เริ่มต้นมาจากพื้นฐานที่แข็งแรง จึงสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง เป็นการแสดงออกถึงสาระสำคัญของงานสถาปัตยกรรมและคงไว้ซึ่งคุณค่าเมื่อเวลาผ่านไป วิทยานิพนธ์นี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อกลับไปศึกษาพื้นฐาน (Basic) ของการเกิดงานสถาปัตยกรรม ซึ่งส่งผลต่อการก่อรูปทางสถาปัตยกรรมทั้งในมิติของการทำหน้าที่ (Role) และการสื่อความหมาย (Meaning) เนื่องจากปัจจุบันมิติทางความคิดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญของการเกิดงานสถาปัตยกรรมเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทางกลับกันมิติที่เป็นพื้นฐานกลับถูกละเลยอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งทำให้สถาปัตยกรรมดำเนินไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าสถาปัตยกรรมจะปฏิเสธมิติทางความคิดอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นการสร้างสรรค์ที่ดี สิ่งนั้นจะต้องมาจากพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อสนับสนุนองค์ประกอบอื่น ๆ ให้สรรค์สร้างได้อย่างเต็มที่      th
dc.language.isoth
dc.publisherSilpakorn University
dc.rightsSilpakorn University
dc.subjectการทำหน้าที่th
dc.subjectการสื่อความหมายth
dc.subjectความจริงth
dc.subjectวาทกรรมth
dc.subjectRoleen
dc.subjectMeaningen
dc.subjectRhetoricen
dc.subjectIntrinsicen
dc.subject.classificationArts and Humanitiesen
dc.titleReading Architectureen
dc.titleอ่านสถาปัตยกรรม : ถอดระบบความสัมพันธ์ผ่านขั้ววาทกรรม และความจริงth
dc.typeThesisen
dc.typeวิทยานิพนธ์th
Appears in Collections:Architecture

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
61054208.pdf11.25 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.