The Function Makeup Jewelry Inspired By Baroque Age

Abstract

The objective of this research is to present jewelry that combine with face makeup with the concept of facial makeup and jewelry wearing that. Inspired by the art of the Baroque era in the 17th-18th century, by quoting the image of noble women.

The procress of this research are as follows; study the baroque art in France, study the works of prominent artists, interior design of the Palace of Versailles and the Petit Trianon, The dress of a noble woman, such as Marie Antoinette. The study of decoration on the face, fabric material experimentation, embroidering, creating jewelry works Combined with decorative painting on the face.

From the process, it leads to creation of the jewelry combined with facial makeup Inspired by Baroque era. The result are 2 sets of jewelry. The first set is the image of the noble queen in Palace of Versailles consisting of choker necklaces and mask. Another set is the image of an innocent girls consisting of choker necklaces, hat and 4 pieces of hair pins.

This represents the role of jewelry that changed today. When the jewelry combined with facial decorations resulting in the perfection of the image, creating aesthetics for jewelry.

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอเครื่องประดับที่ผสานเข้ากับการแต่งหน้า จากแนวคิดการแต่งแต้มบนใบหน้ากับการใส่เครื่องประดับนั้นมีความสอดคล้องกัน โดยมีแรงบันดาลใจจากศิลปะยุคบารอค ในคริสต์ศักราชที่ 17 – 18 โดยหยิบยกเอาเรื่องราวของการตัดสินใจเชื่อสารตามที่สังคมส่วนใหญ่ชี้นำ โดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง มาเป็นจุดให้คนในปัจจุบันได้ขบคิดตาม

กระบวนการวิจัย มีขั้นตอนในการศึกษาดังนี้ ค้นคว้าข้อมูลและรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับศิลปะจากยุคบารอค (Baroque) ในฝรั่งเศส โดยเริ่มศึกษาจากผลงานจิตรกรรมที่โดดเด่น ลวดลายการตกแต่งภายในอาคารพระราชวัง การแต่งกายของกลุ่มสตรีชั้นสูง อาทิเช่น มารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) ที่ถูกคำกล่าวหาจากสังคมที่ชักจูงให้เกิดกระแสตามแนวความคิดทางลบเป็นจำนวนมาก โดยที่ผู้รับสารไม่รู้ข้อมูลเท็จจริง เกิดเป็นจุดเปลี่ยนของการหลงไปตามกระแสนั้น จากการวิเคราะห์ทำให้พบว่ามีภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันอยู่ 2 แบบ คือ ภาพลักษณ์ของราชินีในพระราชวังแวร์ซายส์ ถูกระเบียบราชประเพณีตีกรอบสร้างความกดดัน และนำไปสู่การหลบหนีไปซ่อนตัวที่พระตำหนักเปอติ ตรีเอนง (Petit Trianon) ในเขตพื้นที่ที่สามารถแสดงความเป็นตัวตนได้อย่างแท้จริง เกิดเป็นภาพลักษณ์เด็กสาวชาวบ้าน ไร้เดียงสา ท่ามกลางธรรมชาติ ศึกษาการตกแต่งบนใบหน้า และทดลองวัสดุให้มีเอกลักษณ์ การปัก การทับซ้อน สร้างผลงานให้มีมิติ สร้างเอกลักษณ์ให้ของงาน และผสานเข้ากับการตกแต่งบนใบหน้า

จากกระบวนการศึกษาและการวิเคราะห์ข้อมูลจากยุคบารอค เพื่อสื่อถึงแนวความคิดการตกแต่งใบหน้าและการสวมเครื่องประดับสอดคล้องกัน ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ข้าพเจ้าได้นำวัสดุผ้า ไหม โลหะผสมผสานการตกแต่งใบหน้า มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับชุดนี้ ซึ่งแสดงออกถึงความสอดคล้องของการตกแต่งใบหน้าและการสวมใส่เครื่องประดับ เกิดเป็นสุนทรียภาพให้กับเครื่องประดับสำหรับสตรีในสังคมร่วมสมัย