The Participation of Local Community in Creative Tourism Management at Baanrimklong Community in Mueang District Samut Songkhram Province

Abstract

The objectives of this research were 1) to study the participation of community leaders. And those involved in creative tourism management of Ban Rim Khlong community. 2) To study the level of community participation 3) to study the problems, obstacles, and suggestions of the communities in the management of creative tourism of the Ban Rim Khlong community. The study method is a Mixed Methodology, between quantitative and qualitative methods. Samples of qualitative were community leaders and those involved in tourism management. There were 11 Key Informant, collected by the Focus group. The research instrument for collecting data was a total of 7 questions. Samples of quantitative is the people who live in Laem Lom Thuan village, 242 people. The research instrument collected data were questionnaires. The reliability of the questionnaire was 0.892. The statistics used for data analysis were percentage, mean, and standard deviation and used t-test and F-test or One way-ANOVA statistics to compare mean differences by means of LSD. Results of community leader participation and those involved. Found that the participation of community leaders And those involved In each of the 4 aspects which are 1) participation in planning and decision making 2) participation in practice 3) participation in benefits 4) participation in evaluation There is a very good participation in all areas, making the operation go well. The findings of the level of community participation. Found that it is at a low level (x̄ = 2.27) because most of the work is the work of those involved who are able to participate And most people do not have knowledge and understanding of management And answer the hypothesis Different demographic characteristics have different levels of participation in creative tourism management of Ban Rim Khlong community, Mueang District, Samut Songkhram Province. With statistical significance at the level of 0.05. The findings of the study of problems found that there is insufficient public relations. As for the ways to make the community sustainable, Community leaders will see that everything is maintained just like before is another way to sustainability but there may be a slight change in the type of activity In order to allow the tourism of the Ban Rim Khlong community to stay sustainable.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านริมคลอง 2) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านริมคลอง 3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของชุมชนในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านริมคลอง

วิธีการศึกษาเป็นการวิจัยแบบผสมผสานเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพคือ ผู้นำชุมชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการการท่องเที่ยว มีผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 11 คน เก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลคือคำถามทั้งหมด 7 ประเด็นที่ครอบคลุมวัตถุประสงค์ ส่วนเชิงปริมาณคือประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแหลมลมทวน ที่เป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ จำนวน 242 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล คือแบบสอบถาม ได้ผลการหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.892 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติ t-test และ F-test หรือ One way-ANOVA ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย และเปรียบเทียบรายคู่แบบ LSD

ผลการวิจัยการมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านริมคลอง พบว่าการมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ในแต่ละด้านทั้ง 4 ด้าน คือ 1) การมีส่วนร่วมด้านการวางแผนและการตัดสินใจ 2) การมีส่วนร่วมด้านการปฏิบัติ 3) การมีส่วนร่วมด้านผลประโยชน์ 4) การมีส่วนร่วมด้านการประเมินผล มีการมีส่วนร่วมที่ดีมากในทุก ๆ ด้าน

ผลการวิจัยระดับการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านริมคลองส่วนระดับการมีส่วนร่วมของชุมชน พบว่าอยู่ในระดับที่น้อย (x̄ = 2.27) เนื่องจากงานส่วนใหญ่จะเป็นงานของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่สามารถมีส่วนร่วมได้ และประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการจัดการ และตอบสมมติฐาน ลักษณะทางประชากรศาสตร์ แตกต่างกัน มีระดับส่วนร่วมในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านริมคลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

ผลการวิจัยการศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของชุมชนในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านริมคลองให้ยั่งยืน พบว่า มีการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ทั่วถึง ส่วนแนวทางที่ทำให้ชุมชนเกิดความยั่งยืน ผู้นำชุมชนก็จะมองว่าการดำรงทุกอย่างไว้เหมือนกับสมัยก่อน ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน แต่อาจจะมีการปรับรูปแบบกิจกรรมเล็กน้อยๆ หรือเพิ่มกิจกรรมบางอย่าง เพื่อให้ทันตามยุคตาม โดยไม่ละทิ้งเอกลักษณ์ของชุมชน เพื่อที่จะให้การท่องเที่ยวของชุมชนบ้านริมคลองอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป