TECHNOLOGY ACCEPTANCE AND INFORMATION SYSTEM QUALITY AFFECTING DECISION TO USE CORPORATE INCOME TAX FILING SERVICE ONLINE TAXPAYER OF BUSINESS INDUSTRY

Abstract

The purposes of this research were to explore technology acceptance and information system quality affecting decision to use corporate income tax filing service online taxpayer of business industry. Using closed-ended questions passed reliability coefficient and content validity to collect from the sample to use the corporate income tax filing service online of business industry. In the area of responsibility of the revenue office department 1-6 400 taxpayer. Processed by program SPSS. Inferential statistics used to hypotheses test: One way ANOVA and Multiple Regression Analysis.

The findings showed the most of the respondents were female, Accounting Officer, Company’s Registration Authorized issue less than 5million baht Type of food & drink industry, Processing time less than 5 years have employees less than 100 people, annual income less than 10 million baht. Hypotheses test: System Quality, User satisfaction, Reaction, Security, Effort Expectancy, Social Influence, Facilitating Conditions and Trust affecting decision to use the corporate income tax filing service online of business industry. These factors explained 64.6% statistically significant level of .05

Suggestions for The Revenue department 1) should develop an information system to be stable. 2) Should arrange staff with specialized knowledge that can solve problems immediately. 3) Should handle public relations to introduce benefits. To build confidence and positive attitude to use the corporate income tax filing service online.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการยอมรับเทคโนโลยีและคุณภาพระบบสารสนเทศที่ส่งผลต่อ การตั้งใจใช้บริการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ตของผู้ยื่นภาษีในธุรกิจภาคอุตสาหกรรม โดยใช้แบบสอบถามปลายปิดที่ผ่านการตรวจสอบความเชื่อมั่นและความตรงเชิงเนื้อหาในการเก็บรวบรวมจาก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้บริการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ตของธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานสรรพากรภาค 1-6 จำนวน 400 คน ข้อมูลเชิงปริมาณถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ โดยใช้สถิติเชิงอนุมานที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การวิเคราะห์สถิติทดสอบหาค่าความแตกต่างหรือค่าทดสอบความแปรปรวนทางเดียวและการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีตำแหน่งเป็นพนักงานบัญชี ประเภทการจดทะเบียนบริษัทจำกัด ทุนการจดทะเบียนน้อยกว่า 5 ล้านบาท เป็นประเภทธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจน้อยกว่า 5 ปี มีจำนวนพนักงานน้อยกว่า 100 คน และมีรายได้ต่อปีน้อยกว่า 10 ล้านบาท ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ด้านคุณภาพของระบบโครงสร้าง ด้านความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ด้านการตอบสนอง/โต้ตอบ ด้านความปลอดภัย ด้านความคาดหวังในการพยายาม ด้านอิทธิพลสังคม ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และด้านความไว้วางใจ ส่งผลต่อความตั้งใจใช้บริการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ตของธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 64.6 อย่างมีนัยสำคัญที่ .05

ข้อเสนอแนะสำหรับกรมสรรพากรที่กลุ่มเป้าหมายเป็นนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจภาคอุตสาหกรรม สามารถนำผลการวิจัยไปใช้ได้ดังนี้ 1.ด้านระบบโครงสร้าง ควรมีการพัฒนาปรุงด้านระบบสารสนเทศ โดยพัฒนาระบบโครงสร้างการทำงานให้สามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพให้มีความเสถียรในการใช้งาน 2.ด้านการบริการตอบสนอง/โต้ตอบ ควรจัดเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลระบบที่ความรู้ ความเชี่ยวชาญโดยตรงเฉพาะด้านการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ตและมีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที 3.ด้านอิทธิพล ทางสังคม ควรมีการประชาสัมพันธ์แนะนำถึงประโยชน์ที่ได้จากการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคล้อยตามเป็นการสร้างความมั่นใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ต