ความเต็มใจจ่ายและความคาดหวังการให้บริการส่วนเพิ่มในผลิตภัณฑ์ของการประปาส่วนภูมิภาค

Abstract

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาสถานการณ์และรูปแบบทั่วไปของการให้บริการส่วนเพิ่มในผลิตภัณฑ์ของการประปาส่วนภูมิภาค2) ศึกษาความเต็มใจจ่ายและความคาดหวังของการให้บริการส่วนเพิ่มในผลิตภัณฑ์ของการประปาส่วนภูมิภาคและ 3) สังเคราะห์รูปแบบการบริการและราคาที่เหมาะสมของการให้บริการส่วนเพิ่มในผลิตภัณฑ์ของการประปาส่วนภูมิภาค ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือผู้ใช้น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาอ้อมน้อย จำนวน 400 ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถามดำเนินการวิจัยเพื่อวัดมูลค่าความเต็มใจจ่ายด้วยวิธีสมมติเหตุการณ์ให้ประเมินค่า (Contingent Valuation Method : CVM) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าความถี่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ยและไค-สแควร์(Chi-square) ผลการวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 36-45 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทหรือหน่วยงานเอกชน มีจำนวนสมาชิกในครัวเรือน 4 คนขึ้นไป มีค่าน้ำประปาเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ระหว่าง 100-500 บาท ลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ ระยะเวลาที่ใช้น้ำประปาเฉลี่ย 6-10 ปี ผู้ใช้น้ำเป็นประเภทบ้านพักอาศัย และชำระเงินค่าน้ำประปาที่สำนักงานประปาสาขาส่วนใหญ่มีความเต็มใจจ่ายที่จะจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมเพราะมีความสะดวกสบาย รวดเร็ว เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน คิดเป็นร้อยละ 69.00 ผลการศึกษาความคาดหวังของผู้ใช้น้ำต่อปัจจัยคุณภาพการให้บริการทั้ง 5 ด้าน พบว่า ด้านความเชื่อถือไว้วางใจ ด้านการตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ ด้านความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ ด้านความเอาใจใส่ผู้รับบริการ และด้านความเป็นรูปธรรมของการบริการ มีความคาดหวังในระดับมาก เมื่อพิจารณาความคาดหวังในคุณภาพการให้บริการทั้ง 5 ด้าน และความเต็มใจจ่ายของผู้ใช้น้ำการประปาส่วนภูมิภาคในเหตุการณ์สมมติพบว่า ความคาดหวังในคุณภาพการให้บริการส่งผลต่อความเต็มใจจ่ายของผู้ใช้น้ำการประปาส่วนภูมิภาค ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05

The purposes of this study were 1) to investigate the situations and general patterns of the products of the Provincial Waterworks Authority, 2) to examine the willingness and expectations towards the provision the component services for the products of the Provincial Waterworks Authority, and 3) to synthesize the service patterns and appropriate charges of the services. The population is the users of Omnoi branch of the works authority. There are 400 samples. The research instrument is questionnaire. The willingness was measured with the contingent valuation method (CVM). The statistics for data analysis are frequency, percentage, average, and chi-square. It was found that most samples were female, 36 – 45 years, Bachelors’ degree graduates, and private employers. They were in families with four or more members. Their monthly water bills were 100 – 500 baht. Their houses were townhouses. Their periods of using the water supply are six to ten years. The water users were residents who paid for the water bills at the branch. Mostly, they were willing to pay for the additional service charge because it was easy, fast, and optional (69.00%). By studying the expectations of the water users towards the service qualities in the five aspects including trust, response, user confidence, user care, and service intangibility; it was found that the expectations were very high. By considering the expectations towards the five aspects and the users’ willingness to use the water supply of the waterworks authority in scenarios, it was found that the willingness was affected by the expectations for the service qualities at the statistical significance level of 0.05.