Please use this identifier to cite or link to this item: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/3562
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributorWatchraphan TONGJANTAen
dc.contributorวัชรพันธ์ ทองจันทาth
dc.contributor.advisorSuabsagun Yooyuanyongen
dc.contributor.advisorสืบสกุล อยู่ยืนยงth
dc.contributor.otherSilpakorn University. Scienceen
dc.date.accessioned2022-02-01T04:47:11Z-
dc.date.available2022-02-01T04:47:11Z-
dc.date.issued26/11/2021
dc.identifier.urihttp://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/3562-
dc.descriptionMaster of Science (M.Sc.)en
dc.descriptionวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม)th
dc.description.abstractThe purposes of our study were denoted as (1) to compare the mathematical creative thinking of probability of students being taught by learning activities bases on 5E instructional model and open-ended problems between before and after learning. (2) to compare the mathematical creative thinking of probability of students being taught by learning activities bases on 5E instructional model and open-ended problems and those being taught by the conventional method. (3) to compare the mathematics achievement of probability of students being taught by learning activities bases on 5E instructional model and open-ended problems with the 70% criteria. The research samples were 69 students in grade 10 at second semester of academic year 2020 of Rachineeburana School, Nakhon pathom province. The research instruments were lesson plans, mathematical creative thinking tests and mathematics achievement tests. Statistical analysis was analized by using t test and Analysis of Covariance. The research founded that (1) The mathematical creative thinking of probability of students being taught by learning activities bases on 5E instructional model and open-ended problems was higher than before at .05 statistical significant levels. (2) the mathematical creative thinking of probability of students being taught by learning activities bases on 5E instructional model and open-ended problems was higher than being taught by the conventional method at .05 statistical significant levels. (3) the mathematics achievement of probability of students being taught by learning activities bases on 5E instructional model and open-ended problems was higher than 70% criteria at .05 statistical significant levels.en
dc.description.abstractในการศึกษาค้นคว้ามีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ (1) เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้นร่วมกับปัญหาปลายเปิดระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน (2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็นของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้นร่วมกับปัญหาปลายเปิดกับนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบปกติ (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็นของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้นร่วมกับปัญหาปลายเปิดกับเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4  จำนวน 69 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนราชินีบูรณะ จังหวัดนครปฐม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การทดสอบที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม ซึ่งผลการวิจัยพบว่า (1)  ความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น ร่วมกับปัญหาปลายเปิดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) ความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น ร่วมกับปัญหาปลายเปิดระหว่างสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบปกติ อย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น ร่วมกับปัญหาปลายเปิด สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05th
dc.language.isoth
dc.publisherSilpakorn University
dc.rightsSilpakorn University
dc.subjectความคิดสร้างสรรค์th
dc.subjectรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้นth
dc.subjectปัญหาปลายเปิดth
dc.subjectCREATIVE THINKINGen
dc.subject5E INSTRUCTIONAL MODELen
dc.subjectOPEN-ENDED PROBLEMSen
dc.subject.classificationSocial Sciencesen
dc.titleEFFECTS OF LEARNING ACTIVITIES BASED ON 5E INSTRUCTIONAL MODEL ANDOPEN-ENDED PROBLEMS ON CREATIVE THINKING AND ACHIEVEMENT IN PROBABILITYen
dc.titleผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น ร่วมกับปัญหาปลายเปิดที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็นth
dc.typeThesisen
dc.typeวิทยานิพนธ์th
Appears in Collections:Science

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
59316308.pdf4.81 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.