ARTHISTORY FOR UPPER SECONDARY STUDENTS CASED STUDY OF 80 POSTURES OF BUDDHA IMAGE MUSEUM WATKRATHUMSUEAPLA

Abstract

The purposes of this study were to explore the efficacy and satisfaction of workshops for uppersecondarystudents basedon the concept of ArtHistory.The samples were 35students of the uppersecondarystudents in Rajadamr iSchool from the simple random sampling. And to study fineart, background and the important of 80postures of Buddha image museum,WatKrathumSueaPla. And postures of Buddha image in Thailand.

The results of the firststudy was the samples has to complete the test before the workshop and there are 2students.But after the workshop there are 33students Which means that the passing rate is at a verygood level. The samples learn about art history,remember and compare Thai art patterns for further publication. The result of the secondstudy found that 80postures of Buddha image museum,WatKrathumSueaPla was a good example of contemporary arts for creating the image oft he Buddha in the presentday.The art and these image so the Buddha were inspired by the patterns and ideology used in SukhothaiandAyutthaya. The researcher use these fineart in a way that benefit others,learning center of Buddhist art in the community.

This study suggests,that the school should be able to recognize and be aware of the important of art history. This would further improve the teachers, and they will be expected to add in the curriculum as an important subject in the school. Using the theme of multimedia, the 80 postures of Buddha image museum, WatKrathumSueaPla should build an information center of arthistory to create a novelty, and attract the visitors. All parties involved, both public and private, should work together to build and shape their morals to truly care and appreciate others.

การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์หลัก 2 อย่างคือ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความพึงพอใจจากการจัดอบรมเชิงเชิงปฏิบัติการ สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามแนวคิดวิธีการทางประวัติศาสตร์ศิลปะ เป็นกลุ่มตัวอย่างจากโรงเรียนราชดำริ จำนวน 35 คน โดยใช้วิธีการเลือกสุ่มอย่างง่าย และศึกษาคตินิยมการสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆในประเทศไทย พร้อมทั้งวิเคราะห์รูปแบบงานศิลปกรรม ที่มาความสำคัญของพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป 80 ปาง วัดกระทุ่มเสือปลา.

ผลการศึกษา ประเด็นแรกพบว่า กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบก่อนอบรมโดยสอบผ่านเกณฑ์ที่ กำหนดไว้ได้จำนวน 2 คน แต่หลังจากผ่านการอบรม สามารถทำแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้จำนวน 33 คน ถือว่าผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก และผลจากแบบสอบถามประสิทธิภาพและความพึงพอใจ พบว่าภาพรวมทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือระดับดีมาก บรรลุวัตถุประสงค์ ทำให้กลุ่มตัวอย่างเกิดการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ สามารถคิด วิเคราะห์ จดจำ เปรียบเทียบ รูปแบบลักษณะพระพุทธรูปปางต่างๆ สำหรับเผยแพร่ต่อไปได้ ประเด็นที่สองพบว่า พิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป 80 ปาง วัดกระทุ่มเสือปลา ถือเป็นตัวอย่างงานศิลปะร่วมสมัยสำหรับการสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆในปัจจุบัน โดยมีคตินิยมจากศิลปะสุโขทัยและอยุธยาเป็นแบบแผนสำคัญ ซึ่งรูปแบบงานศิลปกรรม ผู้วิจัยนำแนวคิดวิธีการทางประวัติศาสตร์ศิลปะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จนพัฒนากลายเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญทางพุทธศิลป์ในชุมชนได้.

การศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะคือ โรงเรียนควรเห็นความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ โดยมุ่งพัฒนาครูผู้สอนและบรรจุในหลักสูตรให้เป็นวิชาสำคัญในโรงเรียน สำหรับพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป 80 ปาง วัดกระทุ่มเสือปลา ควรจัดตั้งศูนย์ข้อมูลให้ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ศิลปะในรูปแบบสื่อมัลติมิเดีย เพื่อสร้างความแปลกใหม่น่าสนใจแก่ผู้เที่ยวชม โดยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาชน เกิดจิตสำนึกร่วมกันดูแลรักษาและเห็นคุณค่าอย่างแท้จริง.