PERSONNEL MANAGEMENT OF WATRATBUMRUNG (SAWAIRATUPHATHAM) SCHOOL

Abstract

The purposes of this research were to know 1) the personnel management of Watratbumrung (Sawairatuphatham) school. 2) the personnel management guidelines of Watratbumrung (Sawairatuphatham) school. The respondents consisted of a school administrator and 55 teachers with the total 56 respondents. The research instrument was a questionnaire concerning the personnel management based on the Flippo theory. Data was analyzed by using frequency, percentage, arithmetic mean, standard deviation and content analysis.

The findings of this research was revealed that

1. The personnel management of Watratbumrung (Sawairatuphatham) school, as a whole and as each aspect, was at a high level, with decreasing order from personnel development, integration, personnel recruitment, maintenance, releasing, and compensation.

2. The personnel management guidelines of Watratbumrung (Sawairatuphatham) school were 1) personnel recruitment should have a manpower plan, assess the need for human resources, and the mission of the institution, personnel recruiting and filling to meet the requirements and should have clear policies or regulations for recruitment. 2) Personnel development should encourage teachers and staff to attend training, to increase knowledge for in teaching and learning activities and should enhance the experience in working. 3) Compensation should have good governance to consider salary promotion for teachers and educational personnel. 4) Integration should be uraged for teacher and school personnel, and should provide opportunities for all staff to work together. 5) Maintenance should create a good atmosphere in the operation and should be organized activities for commitment in the school. 6) Releasing should be fair, and consider regulations of the government without bias reason.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) การบริหารงานบุคคลของโรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง (ไสวราษฎร์อุปถัมภ์) 2) แนวทางการบริหารงานบุคคลของโรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง (ไสวราษฎร์อุปถัมภ์) ซึ่งผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนหรือรักษาราชการแทน จำนวน 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 55 คน รวมทั้งสิ้น 56 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามแนวคิดของฟลิปโป (Flippo) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. การบริหารงานบุคคลของโรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง (ไสวราษฎร์อุปถัมภ์) พบว่า โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านการรวมพลัง ด้านการสรรหาบุคลากร ด้านการธำรงรักษา ด้านการให้พ้นจากงาน และด้านการให้ค่าตอบแทน

2. แนวทางการบริหารงานบุคคลของโรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง (ไสวราษฎร์อุปถัมภ์) พบว่า 1) ด้านการสรรหาบุคลากร ควรมีการวางแผนอัตรากำลังคน ประเมินความต้องการกำลังคนกับภารกิจของสถานศึกษา สรรหาและบรรจุให้เป็นไปตามข้อกำหนดและควรมีนโยบายหรือระเบียบที่ชัดเจนในการรับบุคลากรเข้ามาปฏิบัติงาน 2) ด้านการพัฒนาบุคลากร ควรส่งเสริมให้ครูและบุคลากรเข้ารับการอบรม เพื่อพัฒนาความรู้ นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนและควรมีกิจกรรมเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน 3) ด้านการให้ค่าตอบแทน ผู้บริหารควรใช้หลักความยุติธรรมในการพิจารณาการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 4) ด้านการรวมพลัง ควรมีการจัดกิจกรรมที่ช่วยสร้างสัมพันธภาพระหว่างครูและบุคลากรในโรงเรียนและควรเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกคนได้มีโอกาสทำงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน 5) ด้านการธำรงรักษา ควรสร้างบรรยากาศที่ดีในการปฏิบัติงานและควรมีการจัดกิจกรรมที่ปลูกฝังให้บุคลากรรักในโรงเรียนของตน และ 6) ด้านการให้พ้นจากงาน ควรมีความยุติธรรม รอบคอบกับทุกฝ่ายในการพิจารณาให้ครูหรือบุคลากรพ้นจากงานและในการดำเนินการทางวินัย ควรยึดถือข้อปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการโดยปราศจากความรู้สึกส่วนตัว