MODEL AND MARKETING STRATEGY OF THE MANUFACTURER OF HONEYCOMB RADIATOR CASE STUDY K.P. RADIATOR LIMITED PARTNERSHIP

Abstract

This quantitative research was conducted to study the recurring patterns, strategies and technical difficulties, including plausible solutions being planned by Thai entrepreneur of a honeycomb radiator manufacture “K.P. Radiator L.P.” The triangulation in the data collection was processed to recruit data from 1.) paperworks and available hard copies, 2.) online media content, and 3.) structured interviews with the owner, the employees as well as the customers.

As the results of the study, two major roles, namely the production management and the bookkeeping of the manufacture, were played by two owners. The results showed that a significant strategy was used to stabilize product quality by demanding standard-quality machine parts into the production line. Despite the higher cost compared to other manufactures, the price of K.P. radiator’s product was still reasonable for the customers due to the pricing strategy of the owners. Furthermore, the personal relations management was seen as one of the key business masterminds of this organization. Based on these mentioned factors, the results of SWOT analysis demonstrated both the former weaknesses and further plausible solutions. A trend for predicting in what way the production line of automobile manufacture must be placed so that the honeycomb radiator manufacturers in the future can alternatively redesign their business administration based on the changing status of digital marketing communication these days. Considering the aforementioned results, three significant strategies were pinpointed as the main solutions through the so-called “TOWS Matrix” statistical calculation. 1.) Fast-paced strategy emphasizes on: a.) the importance of stabilizing both endurance and high-standard quality of the products and b.) the policy on pricing condition which requires to be up-to-date, adjustable yet reasonable based on the benchmarked cost in the market 2.) Effect-Filter accentuates the value of highlighting the industrial making-of as the new core of marketing strategy i.e. using the storyline of automobile manufacture that demanded a tremendous load of electricity in the production line, 3.) Retrieval strategy features the idea of reforming the sales and cashier system to be more updated and compatible with various payment channels in order to increase the target sales, and 4.) Defensive strategy for which the organization itself, for example, is supposed to reconsider replacing the more problematic engine parts with the more efficient ones.

For recommendations for the future study, an informatics survey is needed in order to support the overall control for the production line and working conditions well, and to develop product including service to be best profitable and approachable for the customers in the long term.

งานวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบ กลยุทธ์ ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการผลิตรังผึ้งหม้อน้ำรถยนต์ ของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.พี. เรดิเอเตอร์ ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลจากเอกสาร และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การสัมภาษณ์เชิงลึกจาก เจ้าของ พนักงาน และลูกค้า

ผลการวิจัยพบว่าธุรกิจเป็นแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด มีผู้ดูแลหลัก 2 คน โดยแบ่งดูแลในเรื่องการผลิต และด้านบัญชีการเงิน โดยเน้นกลยุทธ์ทางด้านผลิตภัณฑ์ โดยใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ กลยุทธ์ด้านราคา ถึงแม้ต้นทุนวัตถุดิบมีราคาสูงแต่ราคาขายนั้นสมเหตุสมผลกับคุณภาพที่ลูกค้าได้รับ และกลยุทธ์การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือการบริการหลังการขายซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการให้บริการกับลูกค้า สำหรับปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขปัญหาได้ใช้ SWOT Analysis วิเคราะห์ทำให้เห็นแนวทางแก้ไขปัญหาโดยแก้ไขในจุดอ่อน โดยบริษัทมองถึงอนาคตว่าการผลิตรถยนต์มีแนวโน้ม และไปในทิศทางใดเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตให้สอดคล้องกับบริษัทผลิตรถยนต์ เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ สำหรับแนวทางแก้ไขอุปสรรค บริษัทต้องศึกษาแนวโน้มเศรษฐกิจเพื่อเตรียมการรองรับการใช้งานรังผึ้งหม้อน้ำได้ถูกต้อง หรืออาจต้องปรับเปลี่ยนวัตถุดิบที่นำมาใช้ และพัฒนาจุดแข็ง และโอกาส เพื่อให้บริษัทมีความมั่นคงและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ สำหรับการวิเคราะห์ TOWS Matrix แบ่งเป็น 1) กลยุทธ์เชิงรุก โดยเน้นเรื่องกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่มีความคงทนและผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม และกลยุทธ์ด้านราคา มีการตั้งราคาให้เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่แสวงหากำไรเกินควร 2) กลยุทธ์เชิงป้องกัน เมื่อการผลิตรถยนต์ในปัจจุบันมีการนำระบบไฟฟ้ามาใช้มากขึ้น ดังนั้น จึงต้องเน้นเรื่องกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์มาเป็นตัวหลักในการขาย 3) กลยุทธ์เชิงแก้ไข โดยเปลี่ยนแปลงระบบการขายให้ทันสมัยมากขึ้น เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเพิ่มช่องทางการซื้อขายผ่านเว็บไซต์บริษัท และ 4) กลยุทธ์เชิงรับ บริษัทอาจต้องปรับเปลี่ยนวัตถุดิบที่นำมาผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับบริษัทผลิตรถยนต์

ข้อเสนอแนะ ควรศึกษาการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตและควบคุมระบบการทำงาน เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากที่สุด รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีหลากหลายช่องทาง