Please use this identifier to cite or link to this item: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2443
Title: The Model of Strategic Change Capability for Development Small and Medium Enterprises (SMEs) in Thailand to Sustainability.
รูปแบบความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
Authors: Phongsakorn AMSA-ARD
พงศกร เอี่ยมสอาด
TANINRAT RATTANAPONGPINYO
ธนินท์รัฐ รัตนพงศ์ภิญโญ
Silpakorn University. Management Sciences
Keywords: ความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์
การจัดการความสลับซับซ้อนทางธุรกิจ
การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงรุก
วัฒนธรรมองค์การแบบปรับตัว
ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน
ความอยู่รอดอย่างยั่งยืนขององค์การ
Strategic Change Capability
Complexity Management
Proactive Human Resource Management
Adaptability Culture
Competitive Advantage
Survival and Sustainable Organization
Issue Date:  29
Publisher: Silpakorn University
Abstract: This research aimed 1) To study Complexity Management effect to Strategic Change Capability of Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand 2) To study Proactive Human Resource Management effect to Strategic Change Capability of Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand 3) To study Adaptability Culture effect to Strategic Change Capability of Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand 4) To Study Strategic Change Capability effect to Competitive Advantage of Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand 5) To Study Strategic Change Capability effect to Survival and Sustainable Organization of Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand 6) To Study Competitive Advantage effect to Survival and Sustainable Organization of Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand.  This research is mixed feature with quantitative and qualitative methodology. The questionnaire wich was used as the tools for data collection, a total 324 Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand, with the Business Owner of the Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand. Association and in-depth interview to 5 Board of Business Owner of the Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand . The statistic to test an assumption is confirmatory factor analysis second order. The results of hypothesis testing showed that 1) the Complexity Management had significant direct effect on Strategic Change Capability. 2) the Proactive Human Resource had significant direct effect on Strategic Change Capability. 3) the Adaptability Culture had significant direct effect on Sustainable Strategic Change Capability. 4) the Strategic Change Capability had significant direct effect on Competitive Advantage. 5) the Strategic Change Capability had significant indirect effect on Survival and Sustainable Organization, with the Competitive Advantage as mediator. 6) Strategic Change Capability had significant indirect effect on Survival and Sustainable Organization 7) the Competitive Advantage had significant direct effect on Survival and Sustainable Organization. The results of model analysis showed that model base on assumption were in harmony with the emprircal data by χ 2 = 55.38, p-value = 0.79, χ 2 /df = 0.85 ,CFI = 1.00, GFI = 0.98, AGFI = 0.96 and RMSEA = 0.00. The benefit from this research can explain the casual relationship and effect of Strategic Change Capability effect to Survival and Sustainable Organization  of Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand. In addition, the research result can be used to manage for guideline to create Strategic Change Capability focusing on Complexity Management, Proactive Human Resource Management and Adaptability Culture and lead to Sustainable Performance for Small and Medium Enterprise (SMEs) in Thailand  
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาอิทธิพลของการจัดการความสลับซับซ้อนทางธุรกิจ การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงรุก และวัฒนธรรมองค์การแบบปรับตัวที่ส่งผลต่อความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลของความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย 4) เพื่อศึกษาอิทธิพลของความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่ส่งผลต่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณเพื่อทดสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ด้วยแบบสอบถามกับผู้บริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย จำนวน 324 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานได้แก่ การวิเคราะห์เชิงยืนยัน 2 อันดับ และวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิธีปรากฏการณ์วิทยาจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้บริหารบริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวน 5 คน ผลการวิจัยตามสมมติฐานพบว่า 1) การจัดการความสลับซับซ้อนทางธุรกิจมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ 2) การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงรุกมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ 3) วัฒนธรรมองค์การแบบปรับตัวมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ 4) ความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน 5) ความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความอยู่รอดและความยั่งยืนขององค์การ 6) ความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์มีอิทธิพลทางอ้อมเชิงบวกต่อความอยู่รอดและความยั่งยืนขององค์การ และ 7) ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนขององค์การ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน พบว่า โมเดลตามสมมติฐานมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ผ่านเกณฑ์ โดยค่าไค-สแควร์ (χ2) เท่ากับ 55.38  p-value เท่ากับ 0.79 ค่าค่าไค-สแควร์ (χ2/df) เท่ากับ 0.85 ค่า CFI เท่ากับ 1.00 ค่า GFI เท่ากับ 0.98 ค่า AGFI เท่ากับ 0.96 และค่าRMSEA เท่ากับ 0.00 ประโยชน์จากการวิจัยนี้สามารถอธิบายความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ของความสามารถการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทยสู่ความยั่งยืน โดยสามารถนำผลการศึกษาไปใช้ในการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์โดยให้ความสำคัญในด้านการจัดการความสลับซับซ้อนทางธุรกิจ การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงรุก และวัฒนธรรมองค์การแบบปรับเพื่อใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสู่ความยั่งยืนต่อไป
Description: Doctor of Philosophy (Ph.D.)
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)
URI: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2443
Appears in Collections:Management Sciences

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
58604923.pdf7.18 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.