Activity Based Learning and MultimediaFor developing listening and speakinng abilityof Prathomsuksa 2 students

Abstract

This research purpose were 1) To compare listening and speaking ability of Prathomsuksa 2 students before and after learning trough Activity Based Learning and Multimedia 2) To study listening and speaking’s development of Prathomsuksa 2 students during Activity Based Learning and Multimedia 3) To study participation in learning of Prathomsuksa 2 students towards Activity Based Learning and Multimedia for developing listening and speaking ability. The sample group in this research is 28 Prathomsuksa 2 students at Bankhaeraikasetphan Phitthayakan School who were studying in the second semester of the academic year 2019. The research instruments were 1) English learning management plan by using Activity Based Learning and Multimedia for developing listening and speaking ability 2) English listening ability’s test 3) English speaking ability’s assessment 4) behavior observation form for participation in learning management. The mean, standard deviation (S.D.) and t-test were applied for data analysis. The research summary as follows.

1) Results of comparing listening and speaking ability of Prathomsuksa 2 studentsafter learning through Activity Based Learning and Multimedia were significance higher than those before studying at the .05 level

2) The results of the study of listening and speaking of Prathomsuksa 2 students during Activity Based Learning and Multimedia, evaluated at the end of unit for 3 times, results in higher development respectively

3) The student’s behavior towards the learning through Activity Based Learning and Multimedia for developing listening and speaking ability were positive at a good level

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการฟัง การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐานร่วมกับสื่อประสมก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เพื่อศึกษาพัฒนาการการฟัง การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐานร่วมกับสื่อประสม 3) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐานร่วมกับสื่อประสมเพื่อพัฒนาความสามารถในการฟัง การพูดภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนบ้านแครายเกษตรพันธุ์พิทยาคาร ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐานร่วมกับสื่อประสมเพื่อพัฒนาความสามารถในการฟัง การพูดภาษาอังกฤษ 2) แบบทดสอบความสามารถการฟังภาษาอังกฤษ 3) แบบประเมินความสามารถการพูดภาษาอังกฤษ 4) แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าคะแนนเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) และทดสอบค่าที (t-test) แบบ Dependent

ผลการวิจัยพบว่า

1) ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการฟัง การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐานร่วมกับสื่อประสม มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2) ผลการศึกษาพัฒนาการการฟัง การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐานร่วมกับสื่อประสมโดยประเมินเมื่อจบหน่วยการเรียนรู้ทั้งสิ้น 3 พัฒนาสูงขึ้นตามลำดับ

3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐานร่วมกับสื่อประสมเพื่อพัฒนาความสามารถในการฟัง การพูด อยู่ในระดับ ดี