Please use this identifier to cite or link to this item: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/3291
Title: THE DEVELOPMENT OF ENGLISH INSTRUCTIONAL MODEL BY USING ACTIVITY-BASED LEARNING TO IMPROVE COMMUNICATIVE ENGLISH SPEAKING ABILITY AND HAPPINESS IN LEARNING BY USING LOCAL CONTEXT FOR PRIMARY STUDENTS
การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษและความสุขในการเรียนโดยใช้บริบทท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
Authors: Jarimjit SROYSAMUT
จริมจิต สร้อยสมุทร
chanasith Sithsungnoen
ชนสิทธิ์ สิทธิ์สูงเนิน
Silpakorn University. Education
Keywords: รูปแบบการสอน
การพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ
ความสุขในการเรียน
INSTRUCTIONAL MODEL
COMMUNICATIVE ENGLISH SPEAKING ABILITY
HAPPINESS IN LEARNING
Issue Date:  2
Publisher: Silpakorn University
Abstract: The purposes of this study were 1) to develop and find the quality of English instructional model using Activity-Based Learning to improve communicative speaking ability and happiness in learning by using local context for primary students 2) to evaluate the effectiveness of English instructional model as follows: 2.1) communicative English speaking ability, 2.2) development of communicative English speaking ability, 2.3) using English communicative strategies, and 2.4) happiness in learning, and 3) to disseminate the implementation of the instructional model and evaluate the effectiveness of the instructional model. The target participants of the research were 12 primary students (Grade 4-6) that joined in English club in the second semester of the academic year 2021 by purposive sampling. The instruments of the research were the instructional model, usage manual, lesson plans, communicative English speaking ability evaluation form, recording form about using communicative strategies, interview form about happiness in learning, and opinion recording form towards the instructional methods. Data were collected and analyzed by percentage, mean, standard deviation, and content analysis. The research findings were as follows: 1. The instructional model consisted of 5 components; 1) principle 2) objectives 3) instructional process consisting of 5 stages as follows 3.1) Inspire: I, 3.2) Presentation: P, 3.3) Practice: P, 3.4) Communicate: C, 3.5) Evaluate: E, 4) measurement and evaluation, and 5) factors affecting the success. It was evaluated by experts and found that the appropriateness was at high level. ( x̄ = 4.16, S.D. = 0.36) 2. The effectiveness of the instructional model were as follows: 2.1 The communicative English speaking ability after learning by using the instructional model was overall at good level. ( x̄ = 2.40, S.D. = 0.45) 2.2 The communicative English speaking ability during using instructional model had progressed. 2.3 According to using communicative strategies, students used avoiding conversation most frequently, followed by mime, and switching to the mother tongue. 2.4 According to happiness in learning, the results were as follows: 1) According to student aspect, the students were more confident, enthusiastic, and self-esteem. 2) According to teacher aspect, the teacher was kind and sincere. 3) According to relationship with teacher and friend aspect, the students had better relationship with teacher and friends. 4) According to environment aspect, learning atmosphere was relaxing, promoted learning and had enough and appropriate learning resources and facilities. 5) According to learning aspect, students could choose to learn as their needs and interest. They enjoyed learning and were be able to transfer their knowledge to use in real situations. 6) According to impression aspect, students were impressed with playing games, doing various fun activities, learning new vocabularies, practicing speaking English with friends and foreigners. 7) According to using knowledge in daily life, students would apply knowledge for furthering higher study, doing jobs in the future, communicating and giving information to foreigners, and sharing knowledge with other people. 3. The effectiveness of disseminating the instructional model were as follows: 3.1 The communicative English speaking ability during using instructional model had progressed. 3.2 According to using communicative strategies, avoiding conversation was found to be the most frequently used strategy, followed by mime, and switching to the mother tongue. 3.3 According to happiness in learning, the results were as follows: 1) According to student aspect, the students were more confident, enthusiastic, and self-esteem. 2) According to teacher aspect, the teacher was kind and sincere. 3) According to relationship with teacher and friend aspect, the students had better relationship with teacher and friends. 4) According to environment aspect, learning atmosphere was relaxing, promoted learning and had enough and appropriate learning resources and facilities. 5) According to learning aspect, students could choose to learn as their needs and interest. They enjoyed learning and were be able to transfer their knowledge to use in real situations. 6) According to impression aspect, students were impressed with playing games, doing fun activities, leaning new vocabularies, practicing communicating with friends. 7) According to using knowledge in daily life, students would apply knowledge for furthering higher study, doing jobs in the future, communicating and giving information to foreigners, sharing knowledge with other people, and improving English skill.               
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาคุณภาพของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษและความสุขในการเรียนโดยใช้บริบทท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา 2) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ ได้แก่ 2.1) ความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ 2.2) พัฒนาการด้านความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ 2.3) การใช้กลวิธีการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ และ 2.4) ความสุขในการเรียน และ 3) ขยายผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชุมนุมภาษาอังกฤษระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนสามัคคีธรรมานุสรณ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 12 คน โดยใช้การสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการสอน คู่มือการใช้รูปแบบการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความสามารถด้านการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ แบบบันทึกการใช้วิธีการพูดสื่อสาร แบบสัมภาษณ์สะท้อนคิดความสุขในการเรียน และแบบบันทึกความคิดเห็นต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1. รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษและความสุขในการเรียนโดยใช้บริบทท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา มีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้น ได้แก่  3.1) ขั้นกระตุ้น (Inspire: I)  3.2).ขั้นนำเสนอความรู้ (Present: P) 3.3) ขั้นปฏิบัติกิจกรรม (Practice: P) 3.4) ขั้นสื่อสาร (Communicate: C) และ 3.5) ขั้นประเมินผล (Evaluate: E) 4) การวัดและประเมินผล และ 5) ปัจจัยความสำเร็จ ซึ่งประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.16, S.D. = 0.36) 2. ประสิทธิผลของรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษและความสุขในการเรียนโดยใช้บริบทท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา พบว่า  2.1 ความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี ( x̄ = 2.40, S.D. = 0.45)  2.2 พัฒนาการด้านความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนระหว่างการใช้รูปแบบการสอนสูงขึ้น 2.3 การใช้กลวิธีการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ นักเรียนใช้การหลีกเลี่ยงการสนทนามากที่สุด รองลงมาคือการสื่อสารโดยไม่ใช้คำพูด และการใช้ภาษาแม่ 2.4 ความสุขในการเรียนของนักเรียน พบว่า 1) ด้านผู้เรียน นักเรียนรู้สึกมีความมั่นใจ มีความกระตือรือร้น ภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น 2) ด้านครู ครูมีความเมตตา จริงใจและเอื้ออาทรต่อนักเรียน 3) ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนและครู นักเรียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครูและเพื่อนมากขึ้น 4) ด้านสิ่งแวดล้อม บรรยากาศในการเรียนการสอนผ่อนคลาย เอื้อต่อการเรียนรู้ มีแหล่งเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกเหมาะสมเพียงพอ 5) ด้านการเรียนรู้ นักเรียนมีโอกาสเลือกเรียนตามความสนใจของตนเอง รู้สึกสนุกสนาน และสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนไปใช้ในสถานการณ์จริงได้  6) ด้านความรู้สึกประทับใจ สิ่งที่นักเรียนรู้สึกประทับใจมากที่สุดในการเรียนคือการเล่นเกม ได้ทำกิจกรรมที่สนุกและหลากหลายกับเพื่อน ได้ความรู้ใหม่ เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อน และได้ฝึกพูดสนทนากับชาวต่างชาติจริง และ 7) ด้านการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวัน นักเรียนจะนำไปใช้เพื่อเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ประกอบอาชีพในอนาคต พูดคุยสนทนาให้ข้อมูลกับชาวต่างชาติ และแบ่งปันความรู้ให้แก่ผู้อื่น 3. ประสิทธิผลของการขยายผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษและความสุขในการเรียนโดยใช้บริบทท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา พบว่า 3.1 พัฒนาการด้านความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนระหว่างการใช้รูปแบบการสอนสูงขึ้น 3.2 การใช้กลวิธีการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ นักเรียนใช้การหลีกเลี่ยงการสนทนามากที่สุด รองลงมาคือการสื่อสารโดยไม่ใช้คำพูด และการใช้ภาษาแม่ 3.3 ความสุขในการเรียนของนักเรียน พบว่า 1) ด้านผู้เรียน นักเรียนรู้สึกมีความมั่นใจ มีความกระตือรือร้น ภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น 2) ด้านครู ครูมีความเมตตา จริงใจและเอื้ออาทรต่อนักเรียน 3) ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนและครู นักเรียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครูและเพื่อนมากขึ้น 4) ด้านสิ่งแวดล้อม บรรยากาศในการเรียนการสอนผ่อนคลาย เอื้อต่อการเรียนรู้ มีแหล่งเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกเหมาะสมเพียงพอ 5) ด้านการเรียนรู้ นักเรียนมีโอกาสเลือกเรียนตามความสนใจของตนเอง รู้สึกสนุกสนานในการเรียน และสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนไปใช้ในสถานการณ์จริงได้ 6) ด้านความรู้สึกประทับใจ  สิ่งที่นักเรียนรู้สึกประทับใจมากที่สุดในการเรียนคือการเล่นเกม การทำกิจกรรมที่สนุก การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และการได้ฝึกสนทนากับเพื่อน และ 7) ด้านการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวัน นักเรียนจะนำไปใช้เพื่อเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ประกอบอาชีพในอนาคต พูดคุยสนทนาให้ข้อมูลกับชาวต่างชาติ แบ่งปันความรู้ให้แก่ผู้อื่น และฝึกทักษะภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
Description: Doctor of Philosophy (Ph.D.)
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)
URI: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/3291
Appears in Collections:Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
60253903.pdf8.16 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.