A Platform Creation Project for Managing Cultural Knowledge to Drive the Creative Economy of Ratchaburi Province

Abstract

This research has the following objectives: 1) To collect knowledge of local arts and culture and the creative arts and culture of Ratchaburi Province. 2) To analyze problems and develop the management of arts and cultural knowledge. 3) To design a platform and establish a knowledge management system to add value and create a creative economy. This research study is qualitative research. The sample group is purposive sampling, which collects evaluation data from 11 experts. The research instrument used is a 5-level rating scale questionnaire. Then , obtained the results to analyze and find statistical values according to the Likert method. The findings revealed that knowledge of arts and culture in Ratchaburi province is a valuable knowledge base suitable for further developing a platform. It consisted of 5 important components: 1) Local arts and culture database, 2) Creative arts and culture learning resources, online database pinning and creative activity space as well as raw material sources and production sources (studios) at the industrial and individual levels, learning centers, museums, exhibition venues, existing community art spaces, 3) Creating a Ratchaburi art calendar to collect all movements and allow networks or people in the arts and culture industry to schedule in the calendar, 4) Publicizing arts and culture events and, 5) Important and rare art and cultural books. The creative arts and culture platform can store collected knowledge data in a central community database is a space for exchanging cultural knowledge, providing alternative opportunities for artists or communities and generate economic income for Ratchaburi Province by utilizing creativity based on the knowledge foundation.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น และศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของจังหวัดราชบุรี 2) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและพัฒนาการจัดการองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรม 3) เพื่อออกแบบการสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม สร้างระบบการจัดการองค์ความรู้ เพื่อนำไปต่อยอดให้เกิดคุณค่า และสร้างมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การศึกษาการวิจัยในครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่างเป็นประเภทแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยทำการเก็บข้อมูลการประเมินผลจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งหมด 11 ท่าน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ แล้วนำผลที่ได้จากการประเมินทั้งหมดมาวิเคราะห์หาค่าสถิติตามวิธีของลิเคิร์ท (Likert) ผลการวิจัยพบว่า องค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี เป็นฐานความรู้ที่มีคุณค่า องค์ความรู้เหล่านี้เป็นต้นทุนที่ดีในการต่อยอด สามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์แพลตฟอร์มประกอบด้วย 5 องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ 1) ฐานข้อมูลศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น 2) แหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ การปักหมุดทำฐานข้อมูลออนไลน์พื้นที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ แหล่งวัตถุดิบ แหล่งผลิต (สตูดิโอ) ทั้งระดับอุตสาหกรรม และระดับปัจเจกบุคคล ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์สถานที่จัดแสดง ผลงานนิทรรศการพื้นที่ศิลปะชุมชนที่มีอยู่ 3) การทำปฏิทินศิลปะราชบุรีรวบรวมทุกความเคลื่อนไหว และเปิดโอกาสให้เครือข่าย หรือ ผู้คนในวงการศิลปวัฒนธรรม สามารถบันทึกลงตารางในปฏิทินได้ 4) การประชาสัมพันธ์งานศิลปวัฒนธรรม 5) หนังสือศิลปวัฒนธรรมที่มีความสำคัญ และหาชมได้ยาก แพลตฟอร์มศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ สามารถจัดเก็บข้อมูลองค์ความรู้รวมไว้เป็นฐานข้อมูลส่วนกลางในชุมชน แพลตฟอร์มสามารถเป็นตัวกลางการเชื่อมต่อศิลปวัฒนธรรมในชุมชน เสมือนเป็นพื้นที่การแลกเปลี่ยนความรู้ทางศิลปะระหว่างศิลปิน และคนในชุมชนได้ และสามารถสร้างมูลค่ารายได้ทางเศรษฐกิจของ จังหวัดราชบุรี โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์บนฐานขององค์ความรู้ได้