แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์)

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อทราบ 1) การบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์) 2) แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์) ประชากรคณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 13 คน ผู้บริหาร 3 คน ครู 53 คน รวมทั้งสิ้น 69 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามแนวคิดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์) โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อยได้ดังนี้ ด้านการวัดผล ประเมินผล และดำเนินการ เทียบโอนผลการเรียน ด้านการการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา ด้านการคัดเลือกหนังสือแบบเรียนเพื่อใช้ในสถานศึกษา ด้านการพัฒนาและส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ ด้านการวางแผนงานด้านวิชาการ ด้านการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา ด้านการประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอื่น ด้านการส่งเสริมสนับสนุนงานวิชาการแก่บุคคล ครอบครัว องค์กร หน่วยงาน สถานประกอบการ และสถาบันอื่นที่จัดการศึกษา ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา ด้านการแนะแนว ด้านการนิเทศการศึกษา ด้านส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งทางวิชาการ ด้านการพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ด้านการพัฒนาหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นการพัฒนาสาระหลักสูตรท้องถิ่น ด้านการจัดระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับงานด้านวิชาการของสถานศึกษา 2. แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม(นครราษฎร์ประสิทธิ์)พบว่าด้าน 1) ด้านการพัฒนาหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นการพัฒนาสาระหลักสูตรท้องถิ่น ควรมีการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นที่ชัดเจนและสอดคล้องกับท้องถิ่น 2) ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ควรพัฒนาเรื่องการขาดแคลนบุคลากร สื่อ อุปกรณ์ต้องพร้อม และควรพัฒนานักเรียนให้อ่านออก เขียนได้ 3) ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา ควรมีการจัดการอบรมให้ความรู้กับคณะครูในเรื่องของงานวิจัย 4) ด้านการจัดระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับงานด้านวิชาการของสถานศึกษา ควรมี คู่มือปฏิบัติงานเพื่อสื่อสารให้คณะครูทุกคนเข้าใจ จัดระบบงานวิชาการให้ชัดเจน 5) ด้านการพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ควรมีสื่อให้พร้อมใช้งาน และจัดหาสื่อให้ครูได้ใช้ตรงกลุ่มสาระการเรียนรู้ This research aims to understand 1 ) the academic affairs administration of the BanKratumlom (Pra Nakhon Rat) school. 2 ) the Guidelines for academic affairs administration development of BanKratumlom (Pra Nakhon Rat) school. The population were 13 school boards , 3 administrators , and 53 teachers, with total of 69 , the research instrument was questionnaire about “ a academic affairs administration” based on affairs of Basic Education Commission of Thailand. The statistics used to analyze data were frequency, percenfage, arithmetic mean, standard deviation, and content analysis. The research findings were as follows : 1.The academic affairs administration of the BanKratumlom. (Pra Nakhon Rat) school. as a whole and individual were found at the high level, ranking from the tightest to the lowest arithetric mean : Measurement, evaluation, and transfer grade reguirement, Curriculum development, textbook selection for the classroom, Learning development center, Academic planning, Teaching management , Internal quality assurance development and education standards the collabarative development with academic organization Academic supporting, Learning process development, research for educational quality , Guidance , Educational supervistion, Encovraging the academic community is strengthened , Education media and technology development ,Local curriculum development, and Academic rules and reqlations. 2. the guidelines for academic affairs administration development of the BanKratumlom (Nakhon Rat Prasit) school. , respectively , considerning the arithmetive mean, the topic can be taken as a guildlines for development of 5 topics 1) Local curriculum development : should be clarify , and suilation with the community. 2) Learning process development : should be readiness. 3) Research for education guality : should be educate to the teachers. 4) Academic rules and regulations : should be Communicate to the teachers. 5) Educational media and technology development Should be readiness for using to suited group.