THE HAPPY WORKPLACE IN THAMAKA EFFICIENCY PROMOTION GROUP 1 UNDER KANCHANABURI PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA 2

Abstract

This independent study aimed to explore (1) the concept of a happy workplace in Thamaka Promotion Group 1 under Kanchanaburi Primary Educational Service Area 2, and (2) the promotional and developmental guidelines for establishing a happy workplace in this context. The population consisted of 10 consortium schools, with four respondents from each school: two school administrators and two teachers representing the school board, totaling 40 respondents. Each respondent served as a unit of analysis. The instruments employed were: (1) an opinionnaire based on the Thai Health Promotion Bureau’s concept of a happy workplace, and (2) a questionnaire focused on promotional and developmental guidelines for creating a happy workplace. Data were analyzed using frequency, percentage, arithmetic mean, standard deviation, and content analysis.

The findings of the study were as follows:

1. The overall happiness level of the workplaces in Thamaka Promotion Group 1 under Kanchanaburi Primary Educational Service Area 2 was rated high. The aspects ranked from highest to lowest mean scores were a happy home, happy people, and happy teamwork

2. The promotional and developmental guidelines for establishing a happy workplace in Thamaka Promotion Group 1 under Kanchanaburi Primary Educational Service Area 2 revealed the following: (1) Happy Home: Personnel are encouraged to achieve work-life balance, pursue higher education or professional training to enhance their potential, adopt best practices, and apply new knowledge to organizational development. (2) Happy People : Personnel are motivated to foster teamwork, work collaboratively, and cultivate creativity. Effective communication is emphasized to encourage adaptability and readiness for change. (3) Happy Teamwork: Personnel are encouraged to promote team unity, mutual assistance, and kindness among the community, organization, and stakeholders, leading to organizational satisfaction. Additionally, resource mobilization for education is developed through coordination with individuals, communities, private organizations, local administrative bodies, businesses, and other institutions.

การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1. องค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนในกลุ่มส่งเสริมประสิทธิภาพท่ามะกา 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 2. แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนในกลุ่มส่งเสริมประสิทธิภาพท่ามะกา 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยศึกษาประชากร คือ โรงเรียนในกลุ่มส่งเสริมประสิทธิภาพท่ามะกา 1 จํานวน 10 โรง ในแต่ละโรงกําหนดผู้ให้ข้อมูล 4 คน คือ 1) ฝ่ายบริหาร 2 คน ได้แก่ ผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการหรือหัวหน้างานวิชาการ และ 2) ครู จํานวน 2 คน รวมทั้งสิ้น 40 คน โดยใช้ผู้ให้ข้อมูลเป็นหน่วยวิเคราะห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ มี 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็น เกี่ยวกับองค์กรแห่งความสุข ตามแนวคิดของสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ฉบับที่ 2 แบบสอบถามเพื่อให้ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางการส่งเสริมหรือพัฒนาองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนในกลุ่มส่งเสริมประสิทธิภาพท่ามะกา 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยใช้เกณฑ์ค่ามัชฌิมเลขคณิตสูงกว่า 4.50 สำหรับการส่งเสริม และต่ำกว่า 4.50 สำหรับการพัฒนา สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษาพบว่า

1. องค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนในกลุ่มส่งเสริมประสิทธิภาพท่ามะกา 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เพื่อแยกพิจารณาแต่ละด้าน พบว่าอยู่ในระดับมาก 3 ด้าน โดยเรียงมัชฌิมเลขคณิตจากมากไปหาน้อย คือ ด้านที่ทำงานน่าอยู่เสมือนบ้าน ด้านคนทำงานมีความสุข และด้านชุมชนสมานฉันท์

2. แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรแห่งความสุขของโรงเรียนในกลุ่มส่งเสริมประสิทธิภาพท่ามะกา 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 พบว่า ด้านคนทำงานมีความสุข ส่งเสริมบุคลากรให้จัดสมดุลชีวิตอย่างเหมาะสมทั้งด้านชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน พัฒนาบุคลากรให้ได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นหรือฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ มีวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ และนำความรู้มาพัฒนาองค์กรต่อไป ด้านที่ทำงานน่าอยู่เสมือนบ้าน ส่งเสริมการเป็นองค์กรที่มีการทำงานเป็นทีม มีความสุขในการทำงานร่วมกัน และเป็นองค์กรที่มีความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาการสื่อสารที่ดีเพื่อให้บุคลากรมีความกล้าและพร้อมต่อการพัฒนาหรือการเปลี่ยนแปลง เพราะองค์กรต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเสมอ ด้านชุมชนสมานฉันท์ ส่งเสริมด้านการทำงานเป็นทีม ความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูล ซึ่งกันและกัน และเอื้ออาทรระหว่างชุมชน องค์กร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่ความความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานขององค์กร พัฒนาด้านการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยการประสานความร่วมมือกับบุคคล ชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน สถานประกอบการ สถาบัน สังคมอื่น