THE DEVELOPMENT OF APPLICATION FOR EDUCATION BY WITH KWL PLUS TECHNIQUE ON READING FOR MAIN IDEA, THAI LANGUAGE SUBJECT TO ENHANCE ANALYTICAL READING ABILITY FOR PRATHOMSUKSA 3 ELEMENTARY SCHOOL STUDENTS

Abstract

The purposes of these research 1) To evaluate the quality of educational applications in conjunction with KWL PLUS teaching techniques. 2) To compare pre-and post-school achievements with educational applications in conjunction with KWL PLUS teaching techniques. 3) To compare analytical readability before and after study with the educational application in conjunction with KWL PLUS teaching techniques. 4) To study the opinions of 3rd grade students on their studies with the KWL PLUS educational application. The samples used in this research were 15 of the 15 3rd grade students at Ban Pong Chet School. It is obtained by (simple random sampling) method by lottery method for the school to be a random unit. Research instruments include: 1) Structured interview form. 2) Educational application management plan in conjunction with KWL PLUS teaching techniques. 3) Quality Assessment, Learning Management Plan. 4) Educational application materials in conjunction with KWL PLUS teaching techniques. 5) Educational Application Media Quality Assessment. 6) Learning Achievement Test. 7) Analytical readability measurement test 8) Student feedback questionnaire Data analysis is the use of average, standard deviation, dependent t-test statistics.

The results were as follows: 1) The quality of the application for education, the overall quality of the design is very good. The average is 4.66 and the standard deviation is 0.26 and the content side. Overall quality is very good. The average is 4.50 and the standard deviation is 0.24 2) Achievements with educational applications combined with KWL PLUS post-school teaching techniques are statistically significantly higher than at .05 3) Analytical readability with educational applications combined with KWL PLUS post-school teaching techniques is statistically significantly higher than at .05 4) Students' opinions showed that the content, media, application and benefits was at the level of good.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินคุณภาพแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ก่อนและหลังเรียนด้วยแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS 4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโป่งเจ็ด จำนวน 15 คน ซึ่งได้จากวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยวิธีการจับสลากให้โรงเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง 2) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS 3) แบบประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้ 4) สื่อแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS 5) แบบประเมินคุณภาพสื่อแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา 6) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ 7) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ 8) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูล คือ ใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติ t-test แบบ Dependent

ผลการวิจัยพบว่า 1) คุณภาพสื่อแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา ด้านการออกแบบ มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.26 และด้านเนื้อหามีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.24 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ด้วยแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาร่วมกับเทคนิคการสอนแบบ KWL PLUS หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ความคิดเห็นของนักเรียน พบว่าด้านเนื้อหา ด้านสื่อแอปพลิเคชัน และด้านประโยชน์ที่ได้รับ มีคุณภาพโดยรวม ระดับดี